ทำอย่างไรเมื่อปลูกต้นไม้ในบ้านแล้วเหี่ยวเฉา

ทำอย่างไรเมื่อปลูกต้นไม้ในบ้านแล้วเหี่ยวเฉา

ทำอย่างไรเมื่อปลูกต้นไม้ในบ้านแล้วเหี่ยวเฉา

วันว่างเชื่อว่าสาวกคนรักต้นไม้ก็มักจะไปเดินเพลินๆ ที่ร้านขายต้นไม้และได้ต้นไม้โดนใจติดไม้ติดมือกลับมาเสมอจากร้าน และเหล่าสาวกนักปลูกต้นไม้มือใหม่ก็คงเจอเหตุการณ์ประมาณว่าต้นไม้ที่วางขายในร้านมันช่างสวยเตะตา ใบเขียวแข็งแรง ออกดอกสะพรั่งล้นกระถางจนนึกว่าเป็นช่อดอกไม้ เราเห็นแล้วก็จินตนาการไปว่าเดี๋ยวความงามนี้จะมาเฉิดฉายอยู่ในบ้านเรา ก็เลยควักเงินคว้าตัวมันกลับมา แต่…พอย้ายมาอยู่บ้านเรากลับเริ่มร่วงโรย ดอกหาย ใบเหี่ยว และค่อยๆ ขาดใจตายไปในที่สุดเฉย เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยเจอสถานการณ์แบบนี้กันมาแล้วทั้งนั้น

ดังนั้น ถ้าอยากซื้อต้นไม้กลับมาปลูกในบ้าน ในห้อง หรือบนโต๊ะทำงาน แล้วให้มันยังคงความงามและชีวิตเอาไว้ เราขอแนะนำว่าอย่างนี้

วิธีดูแลต้นไม้

1. ต้นไม้ที่ปลูกในห้องจะไม่งามเท่าต้นไม้ที่ปลูกนอกห้อง

ความจริงข้อแรกที่ต้องเข้าใจและยอมรับคือ ต้นไม้ที่เอามาปลูกในที่ร่มอย่างในห้อง โดยเฉพาะในห้องแอร์ ยากมากที่จะสุขภาพดีและงดงามเท่าตอนปลูกแบบโดนแดดโดนลมด้านนอกแน่นอน  ดังนั้น ถ้าปลูกแล้วความสดชื่นของมันลดลงเล็กน้อย แต่ยังคงความเขียว ไม่ทิ้งใบ แตกใบใหม่ ก็ถือว่าโอเคระดับหนึ่งแล้วล่ะ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันเริ่มโรยรานั่นก็ได้เวลาที่เราต้องเข้าไปแก้ไข

2. หาข้อมูลต้นไม้ก่อนปลูก

ก่อนซื้อต้นไม้แน่นำว่าควรทำการบ้านสักนิด ว่าต้นนั้นต้นนี้ มันต้องการแสงมากน้อยแค่ไหน อยู่ในแสงรำไรได้หรือไม่ เพราะต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการแสงแดด ต้นที่ต้องการแสงมากควรปลูกกลางแจ้ง แต่ถ้าเราเอาต้นที่ต้องการแสงมากอย่างกระบองเพชรมาอยู่ในห้องที่โดนแสงน้อยเอาเถอะเสร็จทุกต้น ยังไงก็ไม่รอด

3. รู้เท่าทัน Pinterest

เราเชื่อว่าแหล่งข้อมูลหนึ่งที่มือใหม่คนรักต้นไม้หาข้อมูลก็คือ Pinterest หรือ Instagram ขอแนะนำให้คุณดูเลยไปถึงตำแหน่งของต้นไม้ในรูป ดูว่าที่โดนแสงมากน้อยขนาดไหน แล้วนำมาเปรียบเทียบกับห้องของเราว่าใกล้เคียงกันแค่ไหนสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อย่าปักใจเชื่อภาพที่เราเห็นแบบหมดใจ เพราะหลายครั้งเขาก็แค่ยกมันมาตั้งตรงนั้นเพื่อถ่ายรูปเท่านั้นเอง

4. ควรคุยกับพ่อค้าแม่ค้า แต่อย่าเชื่อทั้งหมด

เวลาถูกใจต้นไม้ในร้านขายต้นไม้ คำถามแรกที่ทุกคนมักจะถามคือ “ชื่อต้นอะไร” คำถามถัดมาที่ต้องถามให้รู้ก่อนซื้อก็คือ มันชอบแดด ชอบน้ำยังไง บ่อยครั้งที่คนขายมักจะตอบแบบกลางๆ เช่น ปลูกแดดได้ ปลูกรำไรได้ บางครั้งเขาก็ตอบตามความจริง แต่หลายๆ ครั้งก็ไม่จริงเพราะเขาไม่ใช่คนปลูก แค่ไปรับมาจากผู้เพาะต้นไม้แล้วเอามาขายเท่านั้นเอง ดังนั้น เพื่อความชัวร์ คือหาข้อมูลจากหลายๆ แห่ง เช่นถามจากหลายๆ ร้าน ถ้าข้อมูลตรงกัน ก็น่าจะเชื่อได้

5. ไม้ดอกส่วนใหญ่ปลูกในห้องไม่ได้

ไม้ดอกเกือบทุกชนิดต้องการแสง ถ้าเอามาปลูกในห้องมันก็อาจจะไม่ออกดอกหรือไม่ก็อาจจะตายได้ แต่ไม้ใบส่วนใหญ่อยู่ในห้องได้ แต่ก็ต้องเป็นจุดที่ไม่อยู่ห่างจากแสงธรรมชาติมากนัก เน้นว่าต้องแสงธรรมชาตินะ เพราะหลอดไฟไม่ได้ช่วยให้ต้นไม้สังเคราะห์อาหารได้จ้า ยกเว้นเป็นไฟสำหรับปลูกต้นไม้

6. ให้เวลาต้นไม้ปรับตัว

ต้นไม้ที่เราซื้อมานั้นส่วนใหญ่โตมาในโรงเพาะชำซึ่งได้รับแสงค่อนข้างมาก เมื่อเราเอามันเข้ามาในบ้าน เราก็ควรวางให้โดนแสงในระดับหนึ่ง แล้วค่อย ๆ ปรับพิกัดอย่าคิดหักดิบจนเกินไปอย่างเอาไปโดนแดดเต็มๆ ตามระเบียงหรือดาดฟ้า ก็อาจจะช็อกแดด ต้นไม้ที่โดนแดดน้อยลงแบบไม่ทันได้ตั้งตัว มักจะทิ้งใบแล้วไม่ยอมแตกใบใหม่ แต่ถ้าแตกใบใหม่เมื่อไหร่ก็แปลว่ามันปรับตัวกับสภาพนั้นได้แล้ว

7.  จับสัญญาณให้ได้ว่ามันไม่เหมือนเดิม

ถ้าหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ ถ้าเห็นอาการบางอย่างแล้วปล่อยทิ้งไว้ ก็ล้มตายในที่สุด เอาเป็นว่าถ้าใบเริ่มมีอาการผิดปกติ ต้องเริ่มจากสังเกตสภาพดินว่าดินแห้งหรือแฉะไป ถ้าดินแห้งก็ลองรดน้ำแล้วรอดูว่าจะฟื้นไหม ถ้าดินแฉะก็เป็นได้ว่ารากเน่าก็อาจตายได้ ดังนั้น ต้นไม้ที่อยู่ในห้อง ถ้ารดน้ำมากไปก็อันตรายมาก

8. ถ้าอาการไม่ดี อย่าเพิ่งทิ้ง

การปฐมพยาบาลทำได้หลายวิธี ง่ายๆ คือ เอาต้นไม้ขึ้นมาตัดรากเสียทิ้ง ล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง แล้วปลูกอีกครั้งด้วยวัสดุปลูกใหม่ ลองเปลี่ยนมาปลูกด้วยกาบมะพร้าวสับ พีทมอส หรือสแฟกนัมมอส ใช้แทนดินได้เลย วัสดุพวกนี้มีความพรุนสูงมาก จะช่วยให้รากเดินเร็ว

9. ย้ายที่

ต้นไม้แต่ละชนิดต้องการปริมาณน้ำและแสงแดดไม่เท่ากัน ถ้าวางในมุมหนึ่งของห้องแล้วอาการไม่ดี ก็ลองขยับเปลี่ยนมุมหรือเอาออกไปตั้งนอกห้องให้ได้รับแสงรับอากาศเต็มๆ จนแข็งแรงแล้วค่อยเอากลับเข้ามา ก็จะช่วยให้ต้นไม้อยู่กับเราได้

มีสาระ กับคน รักดอกไม้ และ รักต้นไม้ กันได้เป็นประจำทุกสัปดาห์กับเราได้ในเว็บไซต์นี้ ruk-suan.com ติดตามได้ที่ page Facebook คนรักบ้าน

Facebook
Twitter