วันนี้จะขอเอาใจคนรักดอกไม้จิ๋ว ด้วยการพาไปทำความรู้จักกับ บัวดิน ไม้หัวขนาดเล็กดอกสวย ที่โดดเด่นทั้งเรื่องของฟอร์มดอกและสีสัน และมีความหลากหลายทางสายพันธุ์ จนทำให้มีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่หลงรักต้นไม้ชนิดนี้

ลักษณะทางสายพันธุ์
บัวดิน หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ว่านขุนแผนสะกดทัพ เป็นไม้หัวมีลักษณะกลมคล้ายหัวหอม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-2 นิ้ว สีขาว และมีเปลือกชั้นนอกเป็นสีน้ำตาล ปลูกเลี้ยงง่ายไม่สร้างภาระ เพราะใช้พื้นที่น้อย และไม่ต้องดูแลมากมาย แค่ปลูกไว้ในที่มีแดดจัดๆ ก็เติบโตได้แล้ว มีใบเรียวยาว แบน ลักษณะคล้ายใบกุยช่าย ดอกเป็นแบบชั้นเดียว รูปกรวย มี 6 กลีบ มีก้านดอกยาว 4-12 นิ้ว ดอกมีหลายสี ทั้งสีขาว เหลือง ชมพู และ ส้ม ออกดอกในช่วงฤดูฝน หรือบางสายพันธุ์อาจออกดอกได้ตลอดทั้งปี

การปลูกและดูแล
การปลูกต้นบัวดิน ทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การเพาะเมล็ด การแยกหน่อ และการผ่าหัวซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
- เพาะเมล็ด เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ เนื่องจากธรรมชาติของการเพาะเมล็ดจะมีโอกาสได้ต้นใหม่ที่หน้าตาต่างจากเดิม ซึ่งอาจดีกว่าหรือแย่กว่าเดิมก็ได้ แต่สำหรับคนชอบลุ้น วิธีเพาะเมล็ดก็ถือว่าตอบโจทย์
- แยกหน่อ เป็นการขยายพันธุ์ขั้นพื้นฐานของไม้หัวทั่วไป โดยต้นไม้จะมีการแตกหน่อขนาดเล็กออกด้านข้าง และพัฒนาจนมีขนาดใหญ่เพื่อให้ดอกต่อไป วิธีนี้เหมาะกับขยายพันธุ์ต้นบัวดินที่แตกหน่อเก่ง หรือปลูกในพื้นที่กว้างๆ เพื่อให้ออกดอกสะพรั่งเป็นทุ่งดอกไม้
- ผ่าหัว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมใช้สำหรับขยายพันธุ์ไม้หัวหลายๆ ชนิด ซึ่งการผ่าหัวนั้นทำได้ 2 แบบ คือ ผ่าให้หัวแยกออกจากกันเป็นชิ้นๆ และ ผ่าส่วนที่เป็นกาบ แล้วเหลือส่วนที่เป็นฐานรากเอาไว้

เมื่อเลือกวิธีการปลูกที่เหมาะสมได้แล้ว ให้ทำการปลูกลงในดินที่ระบายน้ำได้ดี อย่าให้ไม่มีน้ำขังเด็ดขาด ส่วนการให้น้ำ ถ้าอากาศแห้งๆ ควรรดน้ำทุกวัน วันละ 1 ครั้ง หรือสังเกตจากดินเอาก็ได้ว่ายังคงมีความชุ่มชื้นอยู่หรือไม่
ด้านการบำรุง ก็ควรใส่ปุ๋ยบ้าง อย่างปุ๋ยคอก ปุ๋ยเม็ดละลายช้า หรือปุ๋ยเคมีโรยบางๆ เพราะหากใบงาม และต้นสมบูรณ์ดี ก็จะเป็นการสะสมสารอาหารเพื่อให้ดอกได้มากนั่นเอง
นับเป็นไม้ดอกน่าปลูกอีกชนิดหนึ่งจริงๆ สำหรับบัวดิน เพราะตัดปัญหาเรื่องโรคพืชและแมลงรบกวนไปได้เลย ถ้าจะต้องระวังกันจริงๆ ก็มีแค่อย่าปลูกให้แน่น และอย่าให้มีน้ำขังจนทำให้หัวเน่าเท่านั้นเอง